คำอธิบายบล็อค
Books
วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Kaw Kloog Kahpih ข้าวคลุกกะปิ
เครื่องปรุงข้าว คลุกกะปิ
ข้าวสวย 4 ถ้วย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมกลีบใหญ่สับละเอียด 4-5 กลีบ
น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียงข้าว คลุกกะปิ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา
แอ๊ปเปิ้ลเขียวลูกเล็ก 1 ลูก
หัวหอมแดง 3 หัว
กุ้งแห้งทอด ¼ ถ้วย
พริกสด 2 เม็ด
มะนาว 1 ลูก
ถั่วฝักยาว 8 ฝัก
วิธีผัดข้าว
1. ตั้งกะทะที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมสับลงไปเจียวจนเริ่มเหลืองและหอม
2. ใส่กะปิลงไปผัดกับกระเทียม พอกะปิเริ่มละลายให้นำข้าวสวยที่เตรียมไว้ลงไปผัด (แบ่งข้าวเป็น 2 ส่วนนะคะ เวลาคลุกข้าวกับกะปิจะได้คลุกทั่วกันง่าย)
3. ผัดข้าวกับกะปิจนกะปิคลุกกับข้าวจนทั่ว ปิดเตา ยกลงและพักไว้
วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวคลุกกะปิ
ไข่ฝอย
1. ตอกไข่ใส่ชาม ตีไข่ให้เข้ากัน (ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟูมาก) ใส่ซีอิ้วขาวลงไปแล้วตีให้เข้ากันซักพัก จากนั้น ตั้งกระทะที่ไฟแรง ใส่น้ำมันลงไปประมาณ ½ ช้อนโต๊ะ กลิ้งกระทะให้น้ำมันเคลือบกระทะจนทั่ว เมื่อกระทะร้อนได้ที่แล้วให้เทไข่ลงไป รีบเอียงกระทะให้ไข่กลิ้งไปจนทั่วกระทะ
2. ทิ้งไว้ซักพักจนขอบของไข่เริ่มล่อนออกจากกระทะแล้วก็ให้เริ่มม้วนไข่จนหมด แล้วตักขึ้นพักไว้
3. นำไข่ที่ได้ไปหั่นเป็นฝอยๆ แล้วพักไว้
กุ้งแห้งทอด
ตั้งกระทะที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกุ้งแห้งลงไปทอดจนกุ้งแห้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ก็ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
ผักต่างๆ
1. ปลอกเปลือกหัวหอมแดง เด็ดขั้วพริก นำไปล้างน้ำให้สะอาด ซอยหัวหอมแดงบางๆ ซอยพริกให้ละเอียด และหั่นมะนาวเป็นซีกเตรียมไว้
2. นำแอ๊ปเปิ้ลเขียวและถั่วฝักยาวมาล้างให้สะอาด ปลอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ลเขียว ฝานบางๆ แล้วซอยเป็นเส้นๆ นำไปแช่ในน้ำเย็นผสมเกลือป่นประมาณ ½ ช้อนชา ประมาณ 5 นาทีแล้วนำไปล้างด้วยน้ำเปล่าและสะเด็ดน้ำออกเพื่อไม่ให้แอ๊ปเปิ้ลดำง่าย
3. นำถั่วฝักยาวมาตัดหัวตัดท้ายออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้น นำผักต่างๆ มาจัดใส่จานพร้อมเครื่องเคียงอื่นๆ เตรียมไว้สำหรับเสิร์ฟ
วิธีเสิร์ฟ
ตักข้าวใส่จาน วางเครื่องเคียงต่างๆ ได้แก่ ไข่ฝอย กุ้งแห้งทอด แอ๊ปเปิ้ลซอย หอมแดงซอย ถั่วฝักยาวซอย และตักหมูหวานใส่ถ้วยเล็กๆ หรือจะราดลงไปบนข้าวเลยก็ได้ แล้วแต่ความชอบ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลย
Kaw Neur Deang ข้าวเนื้อแดง
เครื่องปรุง-ส่วนผสมข้าวเนื้อ แดง
สำหรับเนื้อและน้ำราด
- เนื้อ
- ผงเนื้อแดง (ใช้ผงหมูแดงได้เช่นกัน หาซื้อได้ตามท้องตลาด)
- พริกไทยเม็ด
- กระเทียม
- รากผักชี
- ซีอ้วขาว
- น้ำมันหอย
- น้ำมันงา
- น้ำตาลทราย
สำหรับน้ำจิ้ม
- น้ำ
- ซีอิ้วขาว
- ซีอิ้วดำ
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำตาลทราย
- น้ำส้มสายชู
- พริกชี้ฟ้า หรือพริกขี้หนูหั่นเป็นแว่น
วิธีทำข้าวเนื้อแดง
เนื้อและน้ำราด
- นำกระเทียม พริกไทย และรากผักชี โคลกรวมกันจนละเอียด เติมผงเนื้อแดง และใส่น้ำเปล่าเพื่อละลายส่วมผสมทั้งหมด
- จากนั้นเติมซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ใส่เนื้อ(ใช้เป็นก้อนใหญ่) หมักทิ้งไว้สักครู่ พอให้น้ำหมักเข้าเนื้อ
- ต่อด้วยการตั้งหม้อ ใส่น้ำมันพืชพอเหมาะ ตักเนื้อขึ้นจากน้ำหมัก ผัดพอเหลือง
- เทน้ำที่ใช้หมักเนื้อลงไป พร้อมกับเติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าให้ท่วมก้อนเนื้อ เคี้ยวไปเรื่อยๆ จนเนื้อเริ่มเปื่อย ตักเนื้อแยกขึ้นพักไว้
- ปรุงรสน้ำที่ใช้นั้นให้มีรสชาติหวานนำ และเติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำ เพื่อให้น้ำราดเหนียว
น้ำจิ้มข้าวเนื้อแดง
- เทส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมพอให้มีรสชาติกลมกล่อม อย่าให้เผ็ดหรือเปรี้ยวจนเกินไป
ก่อนรับประทาน ให้นำก้อนเนื้อมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ วางลงบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยน้ำราดสีแดง รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม อาจต้มไข่ และเติมผักสด อย่างแตงกวา ต้นหอม โรยหน้าด้วยผักชี เป็นเครื่องเคียง จิบน้ำซุปใสอุ่นๆ ให้คล่องคอ ก็เข้าท่า.
* เคล็ดลับความอร่อย
- ถ้าต้องการให้น้ำราดมีสีแดง ให้เติมสีผสมอาหาร หรือเติมซอสมะเขือเทศ
- วิธีทำให้ไข่ต้มมีสีแดง เพียงแต่ใส่ไข่ต้มที่ปลอกเปลือกแล้วลงไปในน้ำราด
- ขณะเติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำลงในน้ำราด ควรคนไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้แป้งเป็นก้อน
Thai foods ขนมจีนน้ำยา
เครื่องปรุงขนมจีนน้ำยา
เส้นขนมจีน 200 กรัม
ปลาทูน่า (170 กรัม) 2 กระป๋อง
ผักกาดดอง (300 กรัม) 1 ห่อ
น้ำพริกแกงเผ็ด 4 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1 กระป๋อง
กระชาย 1/3 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ถั่วฝักยาว 100 กรัม
ลูกชิ้นปลา 250 กรัม
ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
วิธีทำน้ำยาขนมจีน
1. หั่นกระชายเป็นชิ้นเล็กๆ เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ต้มให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่กระชายที่หั่นไว้ลงไปต้มประมาณ 10 นาทีจนกระชายนิ่มก็ตักกระชายขึ้นมา จากนั้น นำลูกชิ้นปลาลงไปต้มในน้ำที่ต้มกระชายไว้ต่อ
2. นำกระชายมาโขลกให้แหลก เมื่อแหลกแล้วให้ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผสม โขลกให้เข้ากัน จากนั้นให้นำปลาทูน่ากระป๋องที่บีบน้ำออกหมดแล้วลงไปโขลกให้เข้ากันกับ น้ำพริกแกง (แบ่งโขลกปลาทูน่าทีละกระป๋องนะคะ)
3. จากนั้น นำเครื่องแกงที่ได้ใส่ลงไปในหม้อต้มพร้อมกับลูกชิ้นปลาได้เลย เมื่อน้ำพริกแกงละลายน้ำเรียบร้อยแล้วก็ค่อยๆ ใส่กะทิลงไปจนหมดกระป๋อง คนเรื่อยๆ อย่าให้กะทิเดือดจนแตกมันแล้วจึงปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยเตรียมเสริฟได้ค่ะ
วิธีต้มเส้นขนมจีน
1. เปิดเตาที่ไฟแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อประมาณ 4 ถ้วย ต้มให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำเส้นขนมจีนลงไปต้ม คนให้เส้นกระจายแล้วต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาทีจนเส้นนิ่ม จากนั้น เทเส้นลงไปในกระชอน เปิดน้ำเย็นล้างเมือกแป้งออกและเอาเส้นแช่น้ำไว้
2. จับเส้นที่สุกแล้วให้เป็นก้อนโดยแบ่งเส้นขึ้นมาพอประมาณ พันเส้นกับนิ้วชี้ให้เต็มแล้วนำไปวางบนจาน ทำเช่นนี้จนเส้นหมดก็จะได้ขนมจีนจับเป็นก้อน
วิธีเตรียมเครื่องเคียงขนมจีนน้ำยา
1. เปิดเตาที่ไฟแรง ใส่ไข่ไก่ลงไปในหม้อ ใส่น้ำให้ท่วมไข่ นำไปต้มจนน้ำเดือดแล้วจับเวลาต้มต่อไปอีกประมาณ 10 นาที ต้มไข่ให้สุก จากนั้น ตักขึ้นมาราดด้วยน้ำเย็น (จะได้ปลอกเปลือกได้ง่าย) ปลอกเปลือกแล้วผ่าครึ่งหรือหั่นเป็นแว่น ส่วนถั่วฝักยาวตัดหัวตัดท้ายแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น นำมาหั่นเป็นท่อนเล็กๆ
2. นำผักกาดดองมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เปิดเตาที่ไฟแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อประมาณ 3 ถ้วยต้มให้เดือด เมื่อเดือดแล้วให้นำผักกาดดองที่หั่นไว้ใส่ลงไป ต้มไปประมาณ 10 นาที จากนั้น เทผักกาดดองใส่กระชอน ล้างน้ำอีกครั้งจึงบีบน้ำออกแล้วนำไปใส่จาน (เติมน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวได้ค่ะ)
วิธีเสิร์ฟขนมจีนน้ำยา
นำเส้นขนมจีนและเครื่องเคียงต่างๆ ได้แก่ ไข่ต้ม ถั่วฝักยาว และผักกาดดองมจัดลงในจาน ตักน้ำยาใส่ถ้วย จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลย
Thai foods แกงจืดวุ้นเส้น
ส่วนประกอบแกงจืดวุ้นเส้น
วุ้นเส้นแช่น้ำตัดสั้นๆ (50 กรัม) 1 ถ้วย
เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้แช่น้ำ (50 กรัม) 1/2 ถ้วย
หมูเนื้อแดงสับหรือหั่นชิ้นเล็กๆ (200 กรัม) 1 ถ้วย
รากผักชี 1 ต้น
พริกไทย 1/4 ช้อนชา
กระเทียม 5 กลีบ
ต้นหอม 2 ต้น
น้ำซุป 3 1/2 ถ้วย
น้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแกงจืดวุ้นเส้น
1. โขลกรากผักชี พริกไทย กระเทียมให้ละเอียด
2. ผัดรากผักชีที่โขลกไว้กับเนื้อหมู ใส่น้ำปลา ใส่น้ำซุป 1/2 ถ้วย วุ้นเส้น เห็ดหูหนู ฟองเต้าหู้ ดอกไม้จีนตัดสั้น ผัดประมาณ 5 นาที
3. ตักขึ้นใส่หม้อน้ำซุปที่เหลือ ตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำปลา ชิมรส
4. หั่นต้นหอมเป็นท่อนสั้น 1 นิ้ว ใส่ในหม้อ ยกลง
พลังงาน 958 แคลอรี
โปรตีน 29 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 51 กรัม
ไขมัน 70 กรัม
เสิร์ฟ 4 ที่ๆ ละ 279 แคลอรี
กระเพาะปลา
เยื่อไผ่ 1/2 ห่อ
เห็ดหูหนูดำ 3 ขีด
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 5 ดอก
หน่อไม้หั่น / ข้าวโพดอ่อนหั่น 3 ขีด
น้ำซุปผัก 3 ถ้วยตวง
รากผักชีทุบ 1-2 ราก
ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว จิ๊กโฉ่ว
ทำความสะอาดเยื่อไผ่ แล้วต้มกับน้ำเกลือพอเดือด ล้างน้ำทิ้ง พักไว้
ใส่รากผักชีทุบในน้ำซุปผัก พอเดือด
ใส่เครื่องทั้งหมด แล้วปรุงรสตามชอบ
รับประทาน
โรยผักชี พริกไทยดำ พริกป่น
พริกขี้หนูตำละเอียด ใส่ในน้ำส้มสายชู
จะใส่เส้นหมี่ลวกเวลารับประทานด้วยก็ได้
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ยำใบบัวบก
ส่วนผสมยำใบบัวบก
ใบบัวบก 20 ใบ
กุ้งเสียบ 15 ตัว
หอมแดงซอย 2 หัว
พริกขี้หนูซอย 5-6 เม็ด
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย1/2 ช้อนชา
วิธีการทำยำใบบัวบก
เริ่มจากนำใบบัวบกมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนพอดีคำ จากนั้นพักทิ้งไว้ก่อน แล้วหันมาทำน้ำยำ โดยการนำน้ำพริกเผา มะพร้าวคั่ว น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย หอมแดง และพริกขี้หนู มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากนั้นจึงนำใบบัวบกมาคลุกเคล้ากับน้ำยำให้เข้า กันอีกที เพียงเท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพ ตักใส่จานโรยด้วยกุ้งเสียบ ก็จะได้อร่อยลิ้นกับ "ยำใบบัวบก"(กุ้งเสียบ)แล้ว
บะหมี่รวมมิตร
สูตรอาหารทำง่ายสำหรับคนชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปวันนี้ขอเสนอ บะหมี่รวมมิตร วิธีทำก็ง่าย แสนจะง่ายเพียงแค่เตรียมเครื่องต่างๆ ให้พร้อมซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้หายากเย็นอะไรนัก ไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อที่ทำกึ่งสำเร็จไว้แล้วมาปรุงต่อรับรองว่าอร่อยแน่ นอน
เครื่องปรุง บะหมี่รวมมิตร
1. เนื้อไก่หั่น 1/2 ถ้วย
2. เซ่งจี๊หมูแล่เป็นแผ่น 1/2 ถ้วย
3. ตับหมู 1/4 ถ้วย
4. ก้ามปูนึ่ง 4–5 ถ้าม
5. เกี๊ยวปลา 8 ตัว
6. ลูกชิ้นกุ้ง 8 ลูก
กระเทียมเจียว ตังฉ่าย น้ำปลา ต้นหอมหั่นโรยหน้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4 ห่อ
วิธีทำ บะหมี่รวมมิตร
1. ลวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ยี่ห้อเลือกได้ตามใจชอบ)
2. คลุกเคล้าด้วยกระเทียมเจียว โรยตังฉ่าย น้ำปลาเล็กน้อย
3. ก้นจานรองด้วยผักกาดหอมหั่นชิ้นเล็ก ๆ แล้วประดับหน้าด้วยไก่ เซ่งจี๊ลวก ตับหมู
เกี๋ยวปลาและลูกชิ้นกุ้ง
4. โรยหน้าด้วยต้นหอมหั่น รับประทานกับน้ำส้มพริกดอง พริกป่น
มะเขือยาวทรงเครื่อง
มะเขือยาว 3 ลูก
เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้แข็งหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 แผ่น
เห็ดฟาฝหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเดือด 1/4 ถ้วย
ใบโหระพา 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด
วิธีทำมะเขือยาวทรงเครื่อง
- เอามะเขือยาวปิ้งไฟพอสุก ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วลอกเปลือกออก หั่นเป็นท่อน วางเรียงในจาน
- เอาน้ำมันใส่กระทะ เอาเต้าหู้ลงคั่วพอเหลือง ช้อนขึ้นพักไว้
- เอากระเทียมใส่ลงไปในกระทะที่น้ำมันเหลือจากทอดเต้าหู้ พอเหลืองใส่เต้าเจี้ยวลงผัดพอหอมใส่เห็ดฟาง พร้อมเต้าหู้ที่คลี่ไว้ลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายแดง พร้อมน้ำเดือด คนพอเข้ากันใส่พริกชี้ฟ้า และใบโหรพาลงไปดับไฟ คนอีกที ตักราดบนมะเขือยาวที่หั่นเรียงไว้ในจานเสิร์ฟได้เลย
ตับหมูผัดพริกหวาน
ส่วนผสมตับหมูผัดพริกหวาน
◊ ตับหมู ๔๐๐ กรัม
◊ กระเทียมสับหยาบ
◊ พริกหวาน ๑ เม็ดใหญ่ๆ
◊ น้ำมันพืช
◊ น้ำปลา
◊ น้ำมันหอย
◊ น้ำตาล (สำหรับคนชอบหวานนะคะ ส่วนออฟเองนั้นไม่ได้ใส่ค่ะ)
◊ พริกไทยป่น
◊ น้ำเปล่า
วิธีทำตับหมูผัดพริกหวาน
ตั้งกระทะใส่น้ำมัน กระเทียม ผัดให้หอมฟุ้งไปเลยค่ะ จากนั้นก็ใส่ตับลงไป พอตับเริ่มสุกก็ใส่น้ำลงไปพอประมาณ แล้วปิดฝาค่ะ ปิดไว้ซัก ๒-๓ นาทีเราก็ใส่พริกหวานลงไปเลยค่ะปิดฝาอีกรอบค่ะ ให้ผักสุก เปิดมาก็ลุยเครื่องปรุงที่เหลือกันเลยค่ะ คือน้ำปลา น้ำตาล น้ำมันหอยคนแล้วทิ้งไว้ซักครู่ ก็โรยพริกไทยลงไปค่ะ เมนูนี้ไม่เผ็ดก็จริงแต่ว่าถ้าใส่พริกไทยมากหน่อยก็ร้อนๆดีค่ะแล้วก็คนให้ ทั่วค่ะ แล้วก็ยกเสริฟ
Kang Nuar สูตรแกงเนื้อ
ส่วนผสมแกงเนื้อ
พริกแห้ง 20 เม็ด
หอม 100 กรัม
กระเทียม 100 กรัม
ตะไคร้ 3 ต้น
ข่า 2 ช.ช.
รากผักชี 3 ราก
ผิวมะกรูด 1 ช.ช.
พริกไทย 1/4 ช.ช.
ลูกผักชี 1 ช.ช.
ยี่หร่า 1/4 ช.ช.
เกลือ 1 ช.ต.
กะปิ 1 ช.ช.
เนื้อ 700 กรัม
หัวกะทิ 3 ถ.ต.
หางกะทิ 4 ถ.ต.
ใบมะกรูด 5 ใบ
ใบโหระพา 5 กิ่ง
น้ำมันพืช 1/4 ช.ต.
พริกเขียว 5 เม็ด
น้ำปลาดี 5 เม็ด
วิธีทำแกงเนื้อ
โขลก 1 – 11 รวมกัน ให้ละเอียด
หั่นเนื้อชิ้นพอประมาณ พักไว้
หัวกะทิ ใส่กระทะตั้งไฟ เคี่ยวให้แตกมัน
ใส่เครื่องแกงลงผัด ให้หอม
ใส่เนื้อผัดให้สุก เติมหางกะทิ พอสุก ปรุงรส
ใส่พริก ใบโหระพา ดับไฟ
Kai toon poo ad สูตรไข่ตุ๋นปูอัด
เครื่องปรุง
1. ไข่ไก่(เบอร์ 1) 3 ฟอง | 5. ต้นหอมซอย เล็กน้อย |
2. พอน้ำเดือด นำชามไข่ที่เตรียมไว้ ใส่ในลังถึงปิดฝา ใช้ไฟปานกลาง นึ่งประมาณ 20 นาที เมื่อไข่สุกจะได้ไข่ตุ๋นหน้าตาประมาณในภาพ ถึงขั้นตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องให้ไข่สุก ทั้ง 100 % ก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวต้องแต่งหน้าแล้วนึ่งต่ออีก เอาเป็นว่าให้เกือบสุกก็แล้วกัน
เวลาที่ใช้ในการนึ่งจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับไข่ว่าเป็นไข่ที่ออกจากตู้เย็นหรือเปล่า และไฟที่ใช้บางทีอาจจะไม่เท่ากัน แต่ที่สำคัญ เวลาใส่ชามไข่ในลังถึง ต้องรอให้น้ำเดือดก่อน
3. แต่งหน้าไข่ตุ๋นด้วย ปูอัด โรยแครอทแบบแท่ง ต้นหอมหั่นฝอย จากนั้นปิดฝาลังถึง นึ่งต่อประมาณ 2-3 นาที ให้ปูอัดและผักสุก ยกเสิร์พ ทานร้อนๆ อร่อยมากขอบอก
วิธีทดสอบว่าไข่สุกแล้วหรือยัง ให้ใช้ช้อนหรือซ่อมแทงลงไปที่เนื้อไข่ จิ้มลงไปเบาๆ ก็พอนะคะ ไม่ใช่กวนไข่ ถ้าไข่สุกเนื้อไข่จะเกาะกันดี หากเป็นน้ำสีไข่ดิบไหลขึ้นมา ก็แสดงว่าอาจจะยังสุกไม่ทั่วดี ปิดฝานึ่งต่ออีกหน่อย